มาอาบน้ำด้วยกันไหม

•พฤษภาคม 8, 2010 • 14 ความเห็น

ปัญหาอย่างหนึ่งที่ผู้คนบ่นกันในงาน BMMF 1 ก็คือพื้นที่อันกว้างใหญ่ไพศาลของขอบเขตงาน การจะเดินทางจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งดูเป็นเรื่องที่ต้องตัดสินใจกันนานเพราะถ้าตัดสินใจผิดอาจจะทำให้เรี่ยวแรงในการที่จะไปสนุกกับกิจกรรมต่างๆในงานนันถูกเผาผลาญหมดไปก่อน เรานั่งคุยเรื่องนี้กันหลายครั้งก่อนที่จะได้แนวทางแก้ปัญหาออกมาดังนี้

1.ย้ายจุดกางเต๊นท์ออกไปอยู่หน้างานใกล้กับที่จอดรถเพื่อผู้ชมไม่ต้องแบกของมากมายเข้ามาในงาน

2.เมื่อในงานไม่มีเต๊นท์สามพันกว่าเต๊นท์กางอยู่ เราก็จัดผังงานซะใหม่เพื่อให้จุดสนใจทุกจุดไม่อยู่ห่างกันเกินไป

3.จัดระบบขนส่งมวลชนใหม่ ทั้งนอกงานและในงาน เพื่อการเดินทางสะดวกยิ่งขึ้น

4.เพิ่มจุดห้องน้ำให้มากขึ้น เพื่อให้ไม่ต้องเดินไกลเหมือนคราวที่แล้ว

เหล่านี้คือเรื่องหลักๆเรื่องแรกๆที่เราคุยกันก่อนที่จะเดินหน้ากันต่อในเรื่องดีไซน์หรือการจัดตารางโชว์ต่างๆ และเพื่อให้เข้าใจกันชัดเจนยิ่งขึ้น วันนี้เราจะว่ากันให้ละเอียดในเรื่องจุดกางเต๊นท์กันก่อน

ภาพผู้คนมากมายเดินหอบหิ้วกระเป๋าตัดสนามหญ้าขนาดใหญ่ในงานคราวที่แล้วทำให้ผมคิดอยู่ในใจว่าเราพลาดแล้ว งานนี้มีคนบ่นกันเพียบแน่ แล้วก็จริง จากเดิมที่เราตั้งใจว่าในงานไม่จำเป็นต้องมีรถรับส่งวิ่งไปมา เพราะในงานมิวสิคเฟสติวัลระดับโลกทั้งหลายที่ขนาดพื้นที่ใหญ่กว่างานเราหลายเท่าเขาก็ไม่มีรถรับส่งให้บริการ การเดินทางในงานวิธีเดียวคือการ เดิน เดิน แล้วก็เดิน แต่สำหรับคนไทย เราอาจจะต้องคิดอีกแบบนึง วันนั้นเราจึงแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการแบ่งรถที่จะวิ่งที่ลานจอดรถมาให้บริการด้านใน ทำให้ระบบขนส่งมวลชนวุ่นวายกันไปทั้งงาน เพราะรถไม่เพียงพอทั้งข้างในและข้างนอก ผมจดเอาไว้ในโทรศัพท์ก่อนเลยว่านี่คือสิ่งที่ต้องปรับปรุงในปีหน้า คุณกันหนึ่งในทีมงานดีไซน์เนอร์เดินมาบอกกับผมว่า หรือเราต้องย้ายจุดกางเต๊นท์ออกไปข้างนอกตรงข้างลานจอดรถเลย เมื่อผู้คนมาถึงขนของลงจากรถ เอาของไปเก็บในที่พัก แล้วก็เดินตัวเปล่า หรือติดของใช้จำเป็นบางอย่างเข้ามาในงานก็จะไม่ต้องหอบข้าวของพะรุงพะรังอย่างนี้ ผมจดเอาไว้อีกหัวข้อหนึ่ง และเมื่อเริ่มแระชุมกันครั้งแรกเราก็พูดกันเรื่องนี้ก่อนเลย เราจะย้ายจุดกางเต๊นท์ออกไปที่ลานจอดรถ รวมถึงเพิ่มพื้นที่ให้กางเต๊นท์ได้มากขึ้นจากคราวที่แล้วกางเต๊นท์ได้ 4500 เต๊นท์ เป็น 6000 เต๊นท์ในคราวนี้ และเพื่อจะให้กางเต๊นท์ได้มากขนาดนี้เราก็จะลดขนาดพื้นที่แต่ละพื้นที่จาก 4×4 เมตร ให้เหลือ 3×3 เมตร ซึ่งพิสูจน์แล้วว่พอเพียงสำหรับการอยู่อาศัย เพราะในคราวที่แล้วพื้นที่กางเต๊นท์ด้านนอก(โซนลาดกระบัง)ก็ใช้ขนาดเท่านี้และพบว่าไม่ได้มีปัญหาอย่างไร แผนผังบริเวณที่จอดรถและจุดกางเต๊นท์จึงออกมาอย่างนี้

ทางเข้าออกหลักของงานยังอยู่ที่เดิม จุดลงทะเบียนเพื่อเข้าเต๊นท์ก็ย้ายมาอยู่ที่ด้านหน้านี้ทั้งหมด ใครที่ต้องการนอนเต๊นท์เมื่อมาถึงงานก็จัดการเรื่องที่พักให้เรียบร้อย แล้วจึงเดินผ่านประตูหลัก ตรวจอาวุธ(ซึ่งจะสะดวกขึ้นเพราะไม่ต้องตรวจกระเป๋าเดินทางด้วย) จึงเดินต่อเข้าไปในงาน ระบขนส่งมวลชนก็จะแบ่งเป็นสองสายชัดเจน ด้านนอกหนึ่งสาย และในงานอีกหนึ่งสาย ซึ่งเราจะพูดเรื่องนี้ในรายละเอียดกันในคราวต่อๆไป

เมื่อย้ายชุมชนขนาด 6000 หลังคาเรือนมาอยู่ด้านนอก เราก็ต้องมีระบบสาธารณูปโภคสำหรับชุมชนแห่งนี้ด้วย จึงเป็นที่มาของ Toilet City หรือ “ดินแดนสุขาวดี” สำหรับทุกคน ที่นี่จะมีทั้งห้องส้วมและห้องอาบน้ำ แบ่งเป็นสัดส่วนสำหรับชายและหญิงชัดเจน หน้าตาก็จะเป็นอย่างนี้

เราจะเช่าห้องน้ำมาวางเรียงกันไว้เฉยๆก็ได้ แต่คุณแจ๊ค จิโร่ และทีมงานดูจะไม่ได้คิดแบบนั้น คิดแบบบิ๊กเมาเท่นต้องเว่อร์เข้าไว้ Toilet City ถูกแบ่งเป็นสองโซน ด้านซ้ายเป็นของผู้ชาย ด้านขวาเป็นของผู้หญิง โดนเรากั้นให้ฝั่งผู้หญิงมีห้องน้ำมากกว่าผู้ชาย ด้านริมสุดทั้งสองด้านที่เห็นเป็นรูปหกเหลี่ยมนั่นคือห้องอาบน้ำรวม ใช่แล้วครับห้องอาบน้ำรวม สำหรับผู้ชายก็ยืนอาบร่วมกันแบบตอนเรียนร.ด. แต่สำหรับผู้หญิงเราได้จัดเตรียมม่านพลาสติกกั้นเป็นวงกลมสำหรับทุกคน เพื่อให้คงความเป็นส่วนตัวไว้บ้าง ที่เราเลือกระบบอาบน้ำรวมก็เพื่อให้ใช้บริการได้พร้อมกันหลายๆคน ไม่ต้องรอคิวกันนาน แต่ถ้าใครที่ต้องการความเป็นส่วนตัวกว่านั้นก็สามารถเข้ามาใช้ห้องอาบน้ำแบบถาวรที่มีอยู่เกือบร้อยห้องทั่วบริเวณงาน

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราถกเถียงกันอยู่นานว่า เราพร้อมสำหรับการอาบน้ำร่วมกันในมิวสิคเฟสติวัลหรือยัง คำตอบที่เราได้จากการสอบถามหลายๆคนก็คือ ถ้ายังมีทางเลือกสำหรับผู้ต้องการความเป็นส่วนตัวอยู่ ก็เชื่อว่ามีคนมากมายที่พร้อมจะอาบน้ำร่วมกันโดยไม่ขัดเขิน อย่างไรก็ตามเรายังอยากฟังความเห็นของทุกท่านอยู่ดี ลองแนะนำกันเข้ามานะครับ

ถึงจะเป็นแค่ห้องน้ำ แต่ทีมดีไซน์เนอร์ของเราก็สนุกสนานกับการปล่อยของกันอย่างไม่ยั้ง ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นเวทีเล็กๆที่หน้าห้องน้ำด้วย นั่นเป็นเวทีจริงๆ ไม่ได้สร้างไว้เฉยๆ แต่ตอนนี้ยังคิดไม่ออกว่าจะเอาใครไปเล่นดี หรือจะวางชุดคาราโอเกะไว้ให้ผลัดกันขึ้นไปร้องดีนะ ตอนรอคิวเข้าห้องน้ำจะได้ไม่เบื่อ หรือพวกเราว่าไง

หรือจะมีสวนอยู๋ในห้องน้ำ บรรยากาศจะได้สดชื่น

เราใช้ไม้ไผ่สานเป็นหลังคา ส่วนผนังบุด้วยจาก เพื่อลดความผิดที่ผิดทางของห้องน้ำพลาสติก และอุปกรณ์ต่างๆในห้องน้ำ

แค่เรื่องห้องน้ำอย่างเดียวเราก็นั่งคุยกันได้เป็นวัน ยังเหลืออีกหลายเรื่องที่เก็บไว้เล่าให้ฟังในวันต่อๆไป แวะเข้ามาเยี่ยมกันได้บ่อยๆนะครับ

Big Mountain Music Festival 2

10 -11 December 2010

at Bonunza Khoayai

http://www.bigmountainmusicfestival.com

http://www.facebook.com/bigmountainmusicfestival

The first meeting of BMMF2

•พฤษภาคม 2, 2010 • 6 ความเห็น

หลังจากเงียบหายจากบล๊อกนี้ไปนาน ตอนนี้ก็ได้เวลากลับมาอัพเดทข่าวคราวของ Bigmountain Music Festival กันอีกครั้ง

จริงๆแล้วหลังจากผ่านBMMF1ไปหนึ่งวันเราก็เริ่มพูดคุยกันเรื่องงานครั้งต่อไปกันเลย การประชุมแรกเกิดขึ้นที่งานในวันรื้อถอน เรานั่งคุยกันบนบีนแบ๊ครูปจระเข้(หรือสัตว์ชนิดอื่นในสายตาของหลายคน) ประเด็นพูดคุยส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับข้อผิดพลาดต่างๆที่เกิดขึ้นในงาน ทั้งจากข้อสังเกตของเราเอง และจากเสียงตอบรับของผู้คนในงาน ซึ่งพอจะสรุปออกมาเป็นข้อๆได้ประมาณนี้

1.เราค่อนข้างสอบผ่านเรื่องการสร้างบรรยากาศโดยรอบ และความสนุกของโชว์บนเวที

2.เราสอบตกเรื่องความสะดวกสบาย โดยเฉพาะเรื่องห้องน้ำที่มีเยอะก็จริงแต่ไม่กระจายไปทั่วพื้นที่ และเรื่องระบบรถรับส่งในงานที่ไม่เพียงพอ

3.เราควรจะต้องมีพื้นที่ที่ให้ร่มเงาในตอนกลางวันมากขึ้น รวมถึงเพิ่มกิจกรรมในตอนกลางวันอีกด้วย

4.การสื่อสารในงานขาดประสิทธิภาพ ทั้งระบบป้ายต่างๆ แผนที่ ระบบกระจายเสียงที่จะทำให้ทุกคนรับข่าวสารที่สำคัญอย่างทั่วถึง

5.เราไม่ชอบการแบ่งชนชั้นที่เกิดขึ้นในงาน ที่มาในรูปของโซนวีไอพี หรือโซนพิเศษทั้งหลาย (ข้อนี้ดูจะเป็นข้อที่เราซีเรียสกันมากที่สุด จนจะยกให้เป็นหัวข้อหลักของการทำงานครั้งต่อไปกันเลย)

6.เราวางผังตลาดไม่ดีพอ ร้านค้าบางร้านต้องอยู่ในมุมอับผู้คนไม่เดินผ่าน อาหารไม่เพียงพอ และมีการฉวยโอกาสขึ้นราคาอย่างน่าเกลียด (ส่วนเรื่องที่เราโดนขโมยผ้าขาวม้าจนเกลี้ยงตลาดตอนเลิกงาน เราไม่โกรธ เพราะอย่างน้อยทุกท่านก็รอจนเลิกงานจึงเริ่มขโมย แต่ไม่ได้หมายความว่าคราวหน้าควรจะขโมยกันอีกนะ)

7.ถึงจะมีทีมงานทำงานอยู่ประมาณสี่ห้าพันคน แต่เราก็พบว่ายังไม่เพียงพอ ครั้งต่อไปต้องเพิ่มจำนวนทีมงานอีก

8.เราควรจะย้ายวันจัดงานมาอยู่ช่วงปลายปี สภาพอากาศน่าจะดีกว่าคราวนี้บ้าง

9.ไก่หมุนตรงทางขึ้นเขาใหญ่อร่อยทุกเจ้า แต่คุณแจ๊คและทีมงานชอบซื้อบางเจ้าเป็นพิเศษเพราะลูกสาวสวยมาก ส่วนหมูหันไม่อร่อยเลย ควรปรับปรุงเรื่องนี้เป็นที่สุด

การประชุมผ่านไปอย่างรื่นเริง และจบลงด้วยการที่เกือบจะทุกคนทดลองเข้าไปนอนในบีนแบ๊กอย่างมีความสุข ก่อนจะแยกย้ายกลับบ้านโดยมีบีนแบ๊กรูปจระเข้ยักษ์(หรือสัตว์ชนิดอื่นในสายตาของบางคน)ผูกติดกับหลังคารถไปตลอดทาง หวังไว้ในใจว่าจะผ่านด่านกักกันสัตว์ป่าไปได้

ถึงจะผ่านงานครั้งแรกไปแค่วันเดียว แต่เรารู้ว่างานรอเราอยู่เพียบ

และแน่นอน มีเรื่องให้ได้เล่าผ่านตรงนี้กันอีกเพียบเช่นกัน


ฺBodyslam ,ETC ,The Richman Toy ยัน The Diet Pills และ Yellow Fang

•พฤศจิกายน 27, 2009 • 27 ความเห็น

(เพื่อรายละเอียดที่ครบถ้วนของเบื้องหลังและความเป็นมาของBig Mountain Music Festival กรุณาเริ่มอ่านตั้งแต่ตอน “ความฝันอยู่ในมือท่านแล้ว” แล้วย้อนขึ้นมาเรื่อยๆจนถึงตอนปัจจุบันครับ)

ตอนแรกตั้งใจว่าวันนี้จะโชว์แบบละเอียดของเวทีหลักของเรา แต่พยายามจะแปลงไฟล์ Sketch Up เป็นวิดีโอไม่สำเร็จ เลยขอเก็บไว้เล่าวันต่อต่อไป วันนี้เลยขอเน้นไปที่ไลน์อัพอย่างละเอียดก่อนดีกว่า หลังจากที่ใช้เวลารวบรวมความเห็นของผู้คนมากมายเราจึงได้สรุป รายชื่อศิลปินในแต่ละเวทีได้ดังต่อไปนี้

Forest Stage

Forest Stage จากด้านซ้าย

เวทีหลักของงาน หน้ากว้าง50เมตร พร้อมหอคอยสูง20เมตรที่เปิดให้คุณขึ้นไปชมวิวพร้อมชมคอนเสิร์ตกันได้ คุณจะได้พบกับ

วันศุกร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ (เริ่มแสดงประมาณ 17.00 น. แต่ประตูจะเปิดตั้งแต่ 14.00 น.)

17.10 Playground

18.00 Sqweez Animal

18.50 Slot Machine

19.40 Flure

20.30 Potato

21.20 Big Ass

22.10 Groove Riders

23.00 Slur

23.50 The Richman Toy

00.40 ก้านคอคลับ

วันเสาร์ที่ 6 กุมภาพันธ์

15.00 Getsunova / Bottom Blue

15.50 Tabasco

16.40 Abuse the Youth

17.30 Siam Secret Service

18.20 พราว

19.10 Hangman

20.00 Modern Dog

20.50 Clash

21.40 Scrubb

22.30 Bodyslam

23.20 Yokee Playboy

00.10 Apartment Khunpa

01.00 Paradox

Mountain Stage

เวทีที่มีมิสเตอร์สเต๊กวัวยักษ์ยืนคุมอยู่ด้านหลัง เน้นไปที่เพลงชิลๆไปจนถึงเร๊กเก้สกา

วันศุกร์ที่ 5 กุมภาพันธ์

18.50 Crescendo

19.40 แสตมป์

20.30 Jetsetter

21.20 Friday (เป็นไปตามชื่อวง)

22.10 ETC

23.00 Buddha Bless

23.50 Super Glasses Ska Ensemble

00.40 Teddy Ska Band

วันเสาร์ที่ 6 กุมภาพันธ์

15.00 Project Feel (ปนัดดา ,ลูกหว้า ,ลูกปัด ,นาร่า ,แนน และ แคล)

15.50 เจี๊ยบ วรรธนา

16.40 Werk Gang (แพรว ,มิ้นท์ ,โรส ,ป๋อง และ Soul Da)

17.30 จุ๊ย จุ๋ย

18.20 ลุลา

19.10 Mild

20.00 Monotone

21.40 Calories Blah Blah

22.30 Lipta

23.20 T- Bone

00.10 Madagascar 11 Circle

01.00 Kai Jo Brothers

Dance Arena

เวทีเต้นรำกลางแจ้งที่มีจุดศูนย์กลางเป็นต้นไม้ยักษ์สูงเท่ากับตึกแปดชั้น

วันศุกร์ที่ 5 กุมภาพันธ์

02.00 – 06.00 Mashroom

ทีมปาร์ตี้หน้าใหม่ไฟแรงนำทีมโดย ฟ้าใหม่ ดำรงชัยธรรม ที่จะนำดีเจทั้งจากในและนอกประเทศมานำคุณมันกันยันเช้า

วันเสาร์ที่ 6 กุมภาพันธ์

02.00 – 06.00 dudesweet

ชื่อนี้ไม่ต้องบรรยายอะไรมาก มือหนึ่งเรื่องปาร์ตี้ของไทยในชั่วโมงนี้

Circus Pub

ผับใต้กระโจมในบรรยากาศแบบชิลชิลจั๊งค์จั๊งค์ ความจุกำลังพอดีแถวๆ200 – 300 คน ในแต่ละวันจะมีCuratorเป็นผู้จัดหาวงมาแสดง เพื่อสร้างบรรยากาศที่แตกต่าง

วันศุกร์ที่ 5 กุมภาพันธ์

02.00 – 06.00 Curator – Werk Gang

พบกับ โอ๋ Futon & The Keylooks ,Kitch Cat ,Slow Reverse ,Pringky Groove ,DJ Mizi ,DJ Palm และ  DJ Plakraf

วันเสาร์ที่ 6 กุมภาพันธ์

02.0 – 06.00 Curator – Stufe

ยกมาทั้งร้านอาหารและวงดนตรี ที่จะการันตีทั้งความอร่อยและความฮา

พบกับ Monotone ,Rhythmatique ,Singha to Leon ,Kingkong ,Toon and the Chum ,Ball Jaruruk ,Ki Kerata ,Save the Last Piece ,DJ Frozen และ Pastales

E – Tan Ultimatum Pub

ผับกลางสวนสนุกแบบงานวัด ดัดแปลงรถอีแต๋นให้เป็นฉากหลังของดนตรีหลุดโลก กับความจุพอพอดีนะดับ300 – 400 คน

วันศุกร์ที่ 5 กุมภาพันธ์

02.00 – 06.00 Curator – SO::ON Dry Flowers

คุณ Koishi ผู้ดูแลผับนี้ขอเวลาอีกนิดเพื่อสรุปรายชื่อผู้ขึ้นแสดง แต่ตอนนี้ยืนยันมาก่อนว่าคุณจะได้พบกับ Desktop Error และ Plot รวมถึงการแจมกันอย่างเมามัน(ถ้าไม่เมาอาจไม่มัน)ของคุณ  Koishi และ เพื่อนๆ

วันเสาร์ที่ 6 กุมภาพันธ์

02.00 – 06.00 ติ Buddhist Holiday

พบกับ มาลัยมาเร่(วงใหม่ของคุณติและจีน มหาสมุทร) ,Yellow Fang ,Little Fox(จีน มหาสมุทร) ,Buddhist Holiday ,Samurai Lao ,Sylish Nonsense ,เป้ อารักษ์ (โชว์งานเดี่ยวทั้งเล่นทั้งร้อง)

District 9 Pub

 

555

ผับเร้นลับกลางป่าท้าทายมนุษย์ต่างดาว อยู่สนุกด้วยกันได้ 400 – 500 คน และเนื่องจากที่ตั้งอยู่ไกลออกไปจากใจกลางเมือง Big Mountain ของเรา(ประมาณครึ่งกิโล)จึงไม่กลัวว่าเสียงจะตีกับใคร ผับนี้จึงเปิดทำการได้ตั้งแต่เย็นๆ

วันศุกร์ที่ 5 กุมภาพันธ์

18.00 – 06.00 Curator – Mind the Gap

Mind the Gap มาในคอนเส็ปท์เวทีสำหรับศิลปินหน้าใหม่(บ้างก็ไม่ใหม่นัก)ที่น่าสนใจสลับกับดีเจรับเชิญ ขนกันมามืดฟ้ามัวดิน พร้อมเมนูพิเศษไก่ย่างจาไมก้า หาซื้อได้ที่นี่เท่านั้น

พบกับ Stubborn ,Mad Stone Bunny ,Basement Tape ,Soundlanding ,Class A Cigarettes ,Blood Thirst Spider ,Why oh OK ,The Standards ,Cuckoo ,Revenge of the Cybermen ,Bulleteen ,Zero Hero ,DJ Ooh (Daytripper) ,De Connextor ,Artfloor ,The Diet Pills ,DJ Gene Kasidit และ DJ Neon Buffalo (Mind the Gap)

วันเสาร์ที่ 6 กุมภาพันธ์

17.00 – 22.00 Curator – Genie Records

ค่ายเพลงร๊อคอันดับหนึ่งของไทยขอถือโอกาสจัดปาร์ตี้แฟนคลับกลางงานของเราอีกที

พบกับ Ebola ,Instinct ,Kala ,Klear ,No More Tear ,Retrospect ,Sweet Mullet ส่วนวงพี่ๆของค่ายนี้จะกระโดดมาแจมด้วยหรือเปล่า ต้องลุ้นกันเอง

02.00 06.00 Curator – Smallroom

ค่ายห้องเล็กแต่ใจใหญ่ ยกทีมกันมาทั้งค่ายเช่นกัน

พบกับ Lemon Soup ,Lomosonic ,Yarinda ,Greasy Cafe และ Gene Kasidit และอย่าประมาทเพราะ Slur กับ  The Richman Toy ก็คอยจะกระโดดขึ้นแจมเหมือนกัน

สำหรับตารางเวลาเหล่านี้อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมอีกได้ โปรดติดตามความเคลื่อนไหวแบบเรียลไทม์ได้ที่ เว็บไซท์ของเรา หรือถ้าจะเอาแบบเรียลไทม์ยิ่งกว่านั้นก็ต้องไปฟอลโลว์ @ted6104 กันที่ Twitter

ครั้งต่อไปจะได้เวลาเห็นแบบละเอียดของเวทีและโซนต่างๆกันซักที วันเสาร์นี้จะไปดู Winter Fest เสาร์หน้าก็จะไปดูบอยด์ดี้เพื่อเก็บข้อมูลมาเตรียมงานให้รอบคอบยิ่งขึ้น  ก่อนจากกันขอย้ำว่าบัตรมีขายแล้วที่  Thaiticketmajor ซื้อหลังวันที่16 ธันวาคมนี้จะไม่ได้ผ้าขาวม้าไปฟรีๆด้วย และ ใครชอบถ่ายรูปอาจจะได้ไปร่วมงานเราฟรีพร้อมสิทธิพิเศษมากมายถ้าเข้าร่วมกิจกรรมพิเศษนี้

ชมรายละเอียดของงานแบบเห็นภาพกันจะจะ ณ สถานที่จริงได้ที่นี่

ที่ Big Mountain Music Festival มี District 9

•พฤศจิกายน 11, 2009 • 31 ความเห็น

(เพื่อรายละเอียดที่ครบถ้วนของBMMF กรุณาเริ่มอ่านตั้งแต่ตอน ความฝันอยู่ในมือท่านแล้ว แล้วไล่ขึ้นมาเรื่อยๆนะครับ)

นับว่าวันนี้เป็นวันที่สนุกสนานมากวันหนึ่ง จริงๆแล้วก็สนุกมาสักพักแล้ว แต่วันนี้สนุกเป็นพิเศษ ตอนสายๆเดินทางไปดูสถานที่จัดงานแถลงข่าว BMMF ที่ Cyberia Central World สถานที่กระทัดรัดพอเหมาะ วันจันทร์หน้าใครผ่านไปแถวนั้นตอนบ่ายๆก็แวะไปเยี่ยมกันได้ครับ บัตรเชิญสื่อมวลชนเสร็จตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว คอนเส็ปท์คือ”มัน ใหญ่ มาก” ก็เลยออกแบบให้เป็นบัตรเชิญขนาดเท่ากับหนังสือพิมพ์กางออกเต็มๆแผ่น แต่พับลงไปเรื่อยๆจนเล็กเท่าโปสการ์ด หน้าตาออกมาประมาณนี้

invitation

ที่เห็นรอยลางๆเป็นช่องๆอยู่นั้นคือรอยพับ ใครได้รับไปเมื่อกางออกคงตื่นเต้นใช้ได้ทีเดียว

น้องๆที่ออฟฟิศนึกสนุกออกแบบบัตรสต๊าฟกันเอง ออกมาน่ารักน่าชัง

press

คิวต่อมารีบบึ่งเข้าออฟฟิศเพื่อให้สัมภาษณ์กับ GMbiz น้องนักข่าวน่ารักตั้งคำถามกระฉับกระเฉง พูดคุยกันสนุกสนานอยู่ประมาณเกือบชั่วโมง ก็ได้เวลาประชุมกับแจ๊ค(ปิตุพงษ์ เชาวกุล) จิโร่(Jiro Endo) และทีม GMM Live  แจ๊คกับจิโร่มาถึงก่อนพิ้งค์กี้(มีสองคน คนนึงชื่อพิ้งค์ คนนึงชื่อกี้)จึงจับถ่ายรุปก่อนเลย

 

Jack

Jack ปิตุพงษ์ เชาวกุล

 

Jiro

Jiro Endo

Jiro Ted and Jack

พยายามจะทำท่า Big Mountain

เมื่อได้รูปกันเป็นที่พอใจก็ได้เวลาประชุม ทีม GMM Live มาถึงนำทีมมาโดย น้านิด(หนวด)ที่ผมเห็นทำงานที่นี่มาตั้งแต่ตอนผมมาฝึกงานที่แกรมมี่เมื่อ20ปีก่อน แกยังคงเป็นมีอหนึ่งด้านงานสร้างของที่นี่อยู่จนถึงทุกวันนี้ เราเริ่มเรื่องด้วยแบบเวที Forest Stage ที่ปรับปรุงให้เหมาะกับการก่อสร้างจริงมากขึ้น หลังจากปรับแบบมาสองสามครั้ง ตอนนี้เราได้แบบที่จะใช้สร้างจริงแล้ว หน้าตาเป็นแบบนี้

 

Main stage_091020_

Forest Stage แบบที่จะสร้างจริงกันแล้ว

เราตัดหอคอยออกไปสองอัน แต่เน้นอันที่เหลืออยู่ ให้ใหญ่โตเป็นพิเศษ ภูเขาด้านซ้ายก็ปรับแบบให้เรียบง่ายแต่มีขนาดใหญ่กว่าเดิม

 

Main stage_091020_right

Forest Stage จากอีกมุม

จิโร่เน้นเรื่องหอคอยเป็นพิเศษ ออกแบบให้มีทางขึ้นลงแยกกัน และมีหอบริวารที่เตี้ยกว่าสำหรับบางท่านที่ไม่กล้าเดินขึ้นไปชั้นบนสุด(ซึ่งสุงประมาณตึกสิบชั้น)  มาที่BMMFแล้วอย่าลืมแวะมาขึ้นหอนี้กันนะ ตัวหอคอยนี้จะเป็นศุนย์รวมของหลอดไฟหลากชนิดที่จะทำให้มันไม่ธรรมดายิ่งขึ้นเมื่อถึงตอนกลางคืน

 

Main stage_091020_left

Forest Stage จากด้านซ้าย

ตัวภูเขาด้านซ้ายเมื่อเปลี่ยนเป็นแบบนี้แล้ว เราจึงมีไอเดีย่วาจะโปรเจ็คภาพลงไปด้วยเครื่องฉายขนาดใหญ่ แต่ไม่ใช่เรื่องหมู จึงต้องคำนวณกันต่อว่าจะทำได้จริงไหม

 

Main stage_091020_back park

ด้านหลัง Forest Stage

พื้นที่ด้านหลังเวทีไม่ได้เป็นที่ตั้งชิงช้าสวรรค์อย่างเดียว แต่จะเป็นที่ตั้งของสวนสนุกเล็กๆที่เปิดโอกาศให้ทุกคนมาร่วมสนุกกัน และเมื่อถึงตีสองเวทีป่าปิดการแสดงแล้ว จุดนี้ก็จะเป็นที่ตั้งของผับอีแต๋นอีกด้วย คุณก็จะได้สนุกกับการแสดงของศิลปินหลากหลาย ในปรรยากาศสวนสนุกกันทันที

พวกเรามีความสุขกับแบบล่าสุดของเวทีป่าจนเชื่อว่ามันลงตัวที่สุดแล้ว จึงผ่านไปคุยเรื่องอื่นต่อ จิโร่นำเสนอไอเดียการตกแต่งทางเข้างานด้วยการไลท์ติ้งป่าที่เป็นอุโมงค์เข้าสู่งาน น้านิดตกใจกับจำนวนไฟที่จิโร่ต้องการ(ผมลองคำนวณเงินแล้วก็ตกใจด้วย) แต่ในที่สุดก็จะลองไปหาวิธีกันดู เพราะถ้าทำได้อย่างไอเดียของจิโร่ ก็จะเป็นต้อนรับเข้าสู่งานBMMFอย่างสมบูรณ์แบบ แต่ไอเดียที่จิโร่กับแจ๊คตื่นเต้นที่สุดที่จะมานำเสนอวันนี้เป็นไอเดียของผับแห่งใหม่ ซึ่งเป็นใครก็ต้องตื่นเต้น เพราะ…..

เรื่องมันมีอยู่ว่า เราจำต้องย้ายที่ตั้งผับบ้านต้นไม้ เพราะอยากจะขยายพื้นที่ตลาดและพื้นที่กางเต๊นท์ เราพบที่เหมาะสำหรับตั้งผับที่ด้านในสุดของงาน เป็นพื้นที่เว้าเข้าไปในป่า แต่ทางเจ้าของที่เขาเคลียร์ให้โล่งหวังจะให้เป็นพื้นที่กางเต๊นท์ แต่เมื่อได้ดูพื้นที่แล้วผมว่ามันเหมาะที่จะเป็นผับมากกว่า เป็นผับในป่าน่าจะให้บรรยากาศที่แปลกออกไปจากผับอื่นๆ เมื่อได้เห็นสถานที่จิโร่กับแจ๊คก็กลับมาพร้อมกับไอเดียบรรเจิด เขาเริ่มต้นด้วยการโชว์ภาพนี้ให้เราดูก่อน

ma-ufo

พอเห็นภาพผมก็พอเดาได้แล้วว่าสองคนนี้จะมาไม้ไหน ผมหัวเราะนำก่อนเลยเพราะรู้ว่าฮาแน่ๆ และแล้วทั้งคู่ก็หยิบภาพไอเดียเวทีใหม่ออกมาโชว์ในที่ประชุม

 

IMG_0193

เอากับพี่เขาสิ

จิโร่บอกว่าในวัยเด็กสิ่งที่เขากลัวมากที่สุดเมื่อเข้าไปอยู๋ในป่าไม่ใช่สัตว์ป่า แต่เป็นจานบิน เขากลัวว่ามันจะมาจับตัวเขาไป เขาก็เลยเอาไอเดียนี้มาใช้กับเวทีในผับแห่งนี้ เป็นเวทีที่จานบินลอยอยู่ข้างบน พร้อมที่จะดูดตัวคนแถวนั้นกลับดาวของตัวเอง มาดูภาพให้ชัดๆกันอีกที

 

Jungle stage

555

เมื่อไปดูที่กันคราวล่าสุด พวกเราพูดคุยกันว่าอยากจะใช้รถเครนมาทำอะไรสักอย่างในงานของเรา แต่นึกไม่ถึงว่าแจ๊คกับจิโร่จะเอามันมาใช้แบบนี้ เมื่อได้เห็นภาพพวกเราก็คิดไอเดียต่อยอดกันอย่างเมามัน ว่าบนเวทีน่าจะตกแต่งเหมือนกับการตั้งแคมป์ของคนกลุ่มหนึ่ง มีเต๊นท์มีตะเกียงมีกองไฟ มีภาพผู้คนนั่งล้อมกองไฟมองขึ้นไปบนฟ้าด้วยสีหน้าท่าทางหวาดกลัว แถมเจ้าจานบินลำนี้จะลอยขึ้นเหนือยอดไม้ในตอนกลางวัน ก่อนที่ลดระดับลงมาเหนือเวทีเมื่อใกล้เวลาแสดง สิ่งสำคัญที่สุดที่เราเห็นพ้องต้องกันก็คือโปรดักชั่นจองจานบินจะต้องดูก๊องแก๊งที่สุด เหมือนจานบินในหนังเกรดบีที่เราเคยดูกันตอนเด็กๆ พวกเราตื่นเต้นกับไอเดียของเวทีนี้มากมาก จิโร่กับแจ๊คก็ดีใจที่พวกเราชอบ พวกเขาจะกลับไปทำรายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อให้มันสร้างได้จริงอีกทีหนึ่ง ลืมบอกไป เราตั้งชื่อเวทีนี้ว่า “District 9”

จบการประชุมก็พูดคุยกันต่อกับคุณคิมและทีมงานจาก Thaiticketmajor สรุปรายละเอียดทุกเรื่องก่อนจะเริ่มขายบัตรกันจริงจังในสัปดาห์หน้า ตื่นเต้นตื่นเต้น

ตอนเย็นได้เวลาอัพเดทรายละเอียดของงานกับอร์ดบริหารของแกรมมี่ ทั้งเรื่องรายรับรายจ่าย แผมโปรโมท แผนพีอาร์ และทุกแง่มุมของงาน เราได้มีโอกาสโชว์สปอตโฆษณาตัวที่จะออนแอร์สัปดาห์หน้า และสกู๊ปพิเศษที่จะบอกรายละเอียดของงานทั้งหมด ทุกคนในที่ประชุมพออกพอใจ พลอยทำให้เราโล่งใจไปด้วย ได้เวลาลุยกันต่อ

ค่ำไปกว่านั้นก็ได้เวลาไปทำสปอตวิทยุของโครงการนี้ ทำมาสองเวอร์ชั่น อาทิตย์หน้าน่าจะได้ยินกัน

สัปดาห์นี้ยังอีกยาวไกล ไม่เป็นไร เหนื่อย แต่หนุก

แล้วจะมาเล่าให้ฟังบ่อยๆครับ

(เว็บไซท์อย่างเป็นทางการของBMMF)

 

IMG_0188

ผนังออฟฟิศของเราตอนนี้

มอ มอ มอ

•พฤศจิกายน 6, 2009 • 17 ความเห็น

ถึงแม้จะยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่เราก็แอบเปิดให้จองบัตรกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ใครตัดสินใจได้แล้วก็ไม่ต้องรอช้าคลิกเข้าไปจองกันได้ที่  gmmlive.com ทันที

หน้าตาบัตรจะสวยงามแบบนี้ครับ

 

TICKET

 

ภาพด้านซ้ายคือซองใส่บัตร ส่วนด้านขวาคือบัตรทั้งด้านหน้าและหลัง

พูดแบบเข้าข้างตัวเองนิดๆว่าบัตรช่างสวยงามน่ารักน่าเก็บจริงๆ

 

วันนี้นั่งคุมคุณอ้นกราฟฟิคดีไซนเนอร์หน้าหยกปั่นงานดีไซน์ในส่วนสิ่งพิมพ์กันจนดึก

จนได้แบบโปสเตอร์ตัวจริงออกมาแล้วแต่วันนี้ยังโชว์ไม่ได้ คุณอ้นเขาขอปรุงแต่งอีกนิด แถมยังได้โลโก้ของเกเรซะที ลองส่องดูที่ด้านหลังบัตรนะครับ

คุณป้อหน่วยเคลื่อนที่เร็วเอาสปอตตัวจริงๆมาให้ชม แต่พวกเราสั่งแก้เล็กน้อย วันนี้ก็เลยยังให้ชมไม่ได้

อาทิตย์นี้ยังไม่ได้คุยกับแจ๊คและจิโร่เพราะติดงานใหญ่งานสุดท้ายก่อนงดรับงานไปจนถึงต้นปีหน้า

เพื่อเคลียร์คิวให้กับเราอย่างเต็มที่

น้องนุ้ยเลขาหน้าแฉล้มเร่งปิดดีลกับศิลปินต่างๆเพื่อประกาศตารางโชว์อย่างเป็นทางการกันซักที

น้องพิ้งค์ครีเอทีฟหัวแหลมเร่งปั่นงานเขียนทุกชนิดที่จะไปโผล่ตามสื่อต่างๆ ผลงานล่าสุดคือกฏกติกามารยาทสำหรับผู้อยากมาเปิดร้านขายของกับเรา รออ่านกันได้ในเว็บไซท์อย่างเป็นทางการของBMMF

น้องโอมสมาชิกใหม่ของค่ายเกเรเริ่มออกตระเวนหาร้านเก๋ๆมาร่วมเสริมความสนุกให้เต็มพื้นที่โบนันซ่า

น้องกี้เตรียมการผลิตการ์ดเชิญรวมงานแถลงข่าวของเราในวันที่17นี้ ขอกระซิบว่าการ์ดของเรานั้น มัน ใหญ่ มาก

น้องมดเตรียมการด้านสวนสนุก ล่าสุดได้ราคามอเตอร์ไซด์ไต่ถังมาแล้ว ตื่นเต้นตื่นเต้น

พี่พี่ที่GMM Live เตรียมร่างสัญญาต่างๆที่ต้องใช้ และเริ่มลงรายละเอียดงานสร้างส่วนต่างๆทั้งงาน

น้องปัทสาวสวยเร่งช้อปสื่อต่างๆเพื่อให้มั่นใจว่าชิ้นงานของเราจะไปโผล่ในที่ที่ควรอย่างถ้วนทั่ว

น้องดีและทีมพีอาร์สาวสาวหว่านเสน่ห์ไปทุกพื้นที่สื่อ

ทีมขายทั้งตึกหาเพื่อนมาให้เราเพิ่มอีกทั้ง ยามาฮ่า เป๊ปซี่ เอสแอนด์พี และจะยังไม่หยุดเท่านี้

อย่าแปลกใจถ้าเดินมาที่ออฟฟิศเราตอนนี้แล้วเห็นทุกคนร้องมอมอ

บรรยากาศการทำงานแบบวัวลืมตัวกำลังตลบอบอวลอยู่รอบๆตัวเรา

จองบัตรกันหรือยัง

จองที่พักกันหรือยัง

อย่าประมาทนะ

เตือนแล้วนะ

 

Official BMMF website