เราสามคนบนเขาใหญ่

ท่ามกลางอากาศร้อนระอุของเดือนเมษายนผมแจ๊คและจิโร่ออกเดินทางจากกรุงเทพตอนสายๆแวะทานอาหารเที่ยงที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อโคตรอร่อยที่สระบุรีที่น้าวานิจ จรุงกิจอนันต์เคยแนะนำไว้และผมก็ไม่พลาดโอกาสที่จะไปชิมทุกครั้งที่ผ่านไปแถวนั้น เราไปถึงไร่โบนันซ่าตอนบ่ายและเริ่มต้นทำงานกันทันที พื้นที่ที่เราจะใช้จัดงานมีรูปร่างคล้ายไส้กรอกอิสานขนาดยาวประมาณกิโลกว่าๆ ที่ตรงกลางด้านหนึ่งมีแหลมยื่นออกมาประมาณกือบครึ่งกิโลเหมือนมีใครเอาช้อนไปปักไว้กลางไส้กรอกนั้น ตลอดแนวยาวด้านซ้ายของไส้กรอกมีเนินเขาสูงประมาณสองสามร้อยเมตรทอดยาวเป็นรั้ว อีกด้านหนึ่งมีป่าประกบช้อนทั้งด้านบนด้านล่างไว้ แวบแรกที่เห็นก็มั่นใจได้ว่าที่คือทำเลทองที่เราต้องการ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบขนาดกว้างมีเนินสูงต่ำตามจุดต่างๆ มีต้นไม้ใหญ่บ้างเล็กบ้างที่เจ้าของที่เก็บไว้ตามธรรมชาติ มีถนนเล็กๆตัดผ่านตามความยาวของไส้กรอกคู่กันทั้งซ้ายและขวา เราขับรถสลับเดินถ่ายรูปไปรอบๆพื้นที่เพื่อหาที่ตั้งขององค์ประกอบหลักของงาน


ผมวางแผนไว้ว่างานนี้จะมีสามเวทีหลักและสามเวทีย่อย เวทีใหญ่สุดสำหรับวงดนตรีที่เอาคนเรือนหมี่นอยู่ เวทีรองลงมาสำหรับดนตรีชิลๆไปจนถึงเร๊กเก้สกาในช่วงดึก และเวทีสำหรับดนตรีเต้นรำที่เตรียมไว้ให้กลุ่มDudesweetเข้ามาจัดการ ส่วนเวทีย่อยนั้นมันจะไม่ใช่เวที มันจะเป็นผับ เรื่องนี้คงต้องขยายความกันสักหน่อย จากเรื่องราวที่ได้ยินมาของคอนเสิร์ตลักษณะนี้หลายๆครั้ง โดยเฉพาะอันที่มีเวทีเดียวเล่นยาวจากเย็นไปจนถึงรุ่งสางปัญหาหนึ่งที่พบเห็นคือเมื่อถึงเวลาดึกมากๆตอนตีสองตีสามผู้คนหน้าเวทีก็เริ่มแบ่งเป็นสองพวก พวกหนึ่งง่วงเหงาเมาหลับกันเป็นหย่อมๆ อีกพวกหนึ่งยังอยากสนุกอยู่แต่บรรยากาศเริ่มไม่เป็นใจเพราะผู้คนครึ่งหนึ่งหลับไปแล้ว นักดนตรีที่ขึ้นเล่นในช่วงเวลานั้นส่วนหนึ่งก็มึนเมาเกินจุดพีค ส่วนหนึ่งก็เล่นได้สนุกไม่เต็มที่เพราะคนดูที่ยังอยากสนุกเหลืออยู่ไม่ถึงครึ่ง ผมจึงออกแบบให้สองเวทีแรกในงานของเรามีการแสดงจากเย็นไปจนถึงตีสองเป็นอย่างมาก เมื่อทั้งสองเวทีจบการแสดง เวทีเต้นรำก็จะเริ่มเปิดการแสดง ใครที่ยังอยากสนุกอยู่ก็ย้ายกันไปที่เวทีนี้ใครที่ง่วงก็แยกย้ายกันเข้านอนเพื่อออมแรงไว้สนุกในวันต่อไป แล้วใครที่ยังอยากสนุกต่อแต่ไม่อยากเต้นรำล่ะจะทำอย่างไร … เราจึงต้องมีผับไงครับ

ผับแต่ละผับจะทำหน้าที่เป็นเวทีขนากเล็กจุคนหลักร้อย ตั้งกระจายไปตามจุดต่างๆ แต่ละผับจะมีคิวเรเตอร์เป็นของตัวเองที่จะจัดตารางการแสดงตามคอนเส็ปท์ที่ต้องการ อาจจะเป็นร๊อคผับ แจ๊สผับ ฮิพฮอพผับ ผมเล่าไอเดียนี้ให้โน๊ตแห่งDudesweetฟัง ดวงตาของของเขาลุกวาวและขอจองทันทีหนึ่งผับโดยเลือกผับที่อยู่ติดภูเขาที่สุด เขาคิดคอนเส็ปท์พร้อมตั้งชื่อไว้เรียบร้อยว่า “Brokeback Mountain Pub” พอจะเดาออกใช่ไหมครับว่าผับนี้จะเป็นอย่างไรและสนุกแค่ไหน ผับทั้งสามก็จะเริ่มเปิดการแสดงตั้งแต่ตีสองไปจนถึงรุ่งเช้าเช่นกัน นอกจากส่วนของเวทีการแสดงแล้วส่วนอื่นๆที่เราต้องมีก็อย่างเช่น ตลาดทั้งเล็กและใหญ่ที่ต้องกระจายไปทั่วงาน โซนสำหรับกางเต๊นท์นอน พื้นที่สำหรับกิจกรรมสนุกหลากหลายรูปแบบ ทางเข้าออก เส้นทางสัญจรของผู้คนที่ต้องย้ายตัวเองไปมาตลอดงาน ที่จอดรถ พื้นที่ที่จะเป็นกองบัญชาการของทีมงาน และที่สำคัญที่สุด “ห้องน้ำ”


โชคดีเหลือเกินที่ไร่โบนันซ่าได้มีการจัดสร้าห้องน้ำถาวรไว้แล้วเกือบสองร้อยห้อง แต่เรารู้ดีว่าแค่นั้นไม่พอแน่แน่ เราได้มีการเจรจาเบื้องต้นกับเจ้าของพื้นที่ไว้แล้วว่าคงจะต้องมีการสร้างห้องน้ำเพิ่มเติมอีกอย่างน้อยหนึ่งเท่าตัวเพื่อรองรับการใช้ชีวิตรวมกันสองวันสองคืนของคนเกือยสามหมื่นคน ห้องน้ำที่สร้างเพิ่มจึงไม่ใช่แค่ห้องส้วมเท่านั้นแต่มันหมายถึงห้องอาบน้ำจำนวนมากด้วย เราคาดว่าในปีแรกคนที่จะกางเต๊นท์นอนอยู๋ในงานคงจะมีประมาณห้าพันคนทีเหลือก็คงจะหาที่พักตามรีสอร์ทแถวๆนั้นเพราะอย่างไรก็ตามคนไทยส่วนใหญ่น่าจะยังไม่คุ้นเคยกับการแค้มป์ปิ้งกลางเทศกาลดนตรีอย่างนั้น แต่ปีต่อๆไปเราเชื่อว่าตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมีห้องน้ำเยอะขนาดนี้ย่อมตามมาด้วยระบบเดินน้ำขนาดยักษ์ที่ต้องออกแบบมาอย่างดี ซึ่งเรื่องเหล่านี้เราจะว่ากันในคราวต่อๆไป


ตอนนี้เราเดินหาเหลี่ยมหามุมที่เหมาะสมกันต่อไป เราพบว่าพื้นที่ที่เคยใช้จัดคอนเสิร์ตอื่นๆที่นี่ในครั้งก่อนๆหมาะกับเวทีชิลชิล แต่สำหรับเวทีหลักที่ควรจะรองรับผู้คนเป็นหมื่นเราต้องมองหาใหม่ เดินวนไปมาเพื่อหาส่วนที่กว้างที่สุดของพื้นที่และมีความเป็นเนินโดยธรรมชาติที่จะทำผู้คนจำนวนมากนั่งดูการแสดงได้โดยไม่บังกันเอง จนพบจุดที่ลงตัวที่สุดที่จุดศูนย์กลางของพื้นที่นั่นเอง เวทีเต้นรำเราตัดสินใจเลือกตรงบริเวณพื้นที่ด้านหน้าสุดเพราะเป็นจุดแรกที่ทุกคนเดินเข้ามาแล้วต้องเห็น เราตั้งใจออกแบบเวทีนี้ให้เป็นเป็นแลนด์มาร์คสำคัญที่ทุกคนอยากถ่ายรูปเป็นที่ระลึกในตอนกลางวันที่เวทียังไม่เปิด เมื่อถึงตอนกลางคือนที่เวทีนี้จะเปิดเป็นเวทีสุดท้าย มันก็จะดักรอผู้คนที่กำลังจะเดินทางกลับไปข้างนอกให้ได้ลังเลกันก่อนว่าจะอยู่เต้นต่อสักน่อยดีไหม และจุดนี้ก็ยังเป็นจุดที่อยู่ห่างจากจุดกางเต๊นท์มากที่สุดอีกด้วย ใครที่ต้องการพักผ่อนจึงไม่ต้องห่วงว่าจะมีเสียงรบกวนจนไม่ได้นอน เราได้ทำเลเหมาะสำหรับทำสปาที่หลายคนน่าจะอยากใช้บริการเพราะเหน็ดเหนื่อยจากการเดินมาทั้งวัน การได้นั่งผ่อนคลายการเทศกาลดนตรีน่าจะเป็นเรื่องที่ทุดคนฝันถึง เราได้พื้นที่สำหรับสร้างตลาดขนาดใหญ่ที่จะรองรับผู้คนจำนวนมากพร้อมๆกันได้ ตลาดที่ว่าน่าจะมีความยาวประมาณสองร้อยเมตร(ยาวเท่ากับสนามฟุตบอลสองสนามมาต่อกัน) ที่จะรวมทุกอย่างที่จำเป็นต่อกรดำรงชีวิตที่นี่ไว้ด้วยกัน พร้อมทั้งพี้นที่สำหรับลาดเล็กๆอีกสองสามจุดกระจายไปทั่วงาน หลังจากสำรวจกันจนเหงื่อชุ่มตัว เราก็ไปพักผ่อนเพื่อรอเวลาพระอาทิตย์ตก เราอยากเห็นว่าเมื่อเวลาเปลี่ยน หน้าตาของพื้นที่จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง


เราเดินดูรอบๆพื้นที่อีกครั้งในช่วงพระอาทิตย์ตกดิน พอจะเห็นภาพชัดเจนขึ้นเรื่อยๆว่าอะไรควรอยู่ตรงไหน แต่สิ่งที่ชัดเจนมากมากก็คืออากาศ ทั้งที่เรามาดูที่กลางเดือนที่ร้อนที่สุดแต่อากาศที่นี่กับเย็นสบาย นี่ถ้าเป็นช่วงเดือนกุมภาที่เราจะจัดงานบรรยากาศคงไม่แพ้มิวสิคเฟสที่ไหนในโลก จิโร่บอกว่าเพื่อจะใมห้สมบูรณ์แบบพรุ่งนี้เราต้องตื่นก่อนพระอาทิตย์ขึ้นเพื่อมาดูทิศทางแสงและบรรยากาศกันอีกที แต่วันนี้เราต้องหาอะไรกินกันก่อน ผมพาแจ๊คและจิโร่ไปกินสเต๊กเลื่องชื่อแถวนั้นระหว่างอร่อยกับเนื้อจานใหญ่เราได้ไอเดียเรื่องโลโก้ของงานว่าน่าจะเป็นวัว ก็ที่นี่เป็นเมืองหลวงของสเต๊กนี่ ทุกคนเห็นดีด้วยและหม่ำสเต๊กชิ้นใหญ่จนหมดจาน เรากลับที่พักอาบน้ำและเตรียมตัวเบรนสตอร์มท่ามกลางขุนเขาและแมกไม้ในคืนอากาศหน้าวกลางฤดูร้อน


หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนชุดเราเลือกพื้นที่ใต้ต้นไม้สวยใหญ่กลางทุ่งหญ้าที่จะใช้เป็นเวทีชิลชิล จิโร่กับแจ๊คเตรียมไวน์มาจากกรุงเทพเพื่อการนี้โดยเฉพาะพร้อมของขบเคี้ยวง่ายๆสองสามห่อ เราหาฟางอัดแท่งที่วางอยู่แถวนั้นมาใช้แทนเก้าอี้และการประชุมก็เริ่มต้นขึ้นอย่างรื่นรมณ์ หลังจากเราได้ศึกษาพื้นที่อย่างละเอียดมาสองรอบไอเดียที่เราคิดว่าน่าจะเหมาะกับที่นี่ก็เริ่มลอยฟุ้งทั่ววงสนทนาอีกครั้ง เวทีและการออกแบบทั้งหมดต้องกลมกลืนกับสภาพแวดล้อม แต่มีหน้าตาที่แปลกประหลาดพอที่จะทำให้ทุกคนตกใจเมื่อแรกห็น เส้นทางจราจรในงานควรจะวาทิศทางอย่างไรผู้คนและทีมงานจึงจะเดินทางได้สะดวกที่สุด ภูเขาเป็นฉากหลังที่สวยงามทั้งตอนบ่ายและตอนโพล้เพล้เราต้องใช้ให้เป็นประโยชน์มากที่สุด ต้นไม้ใหญ่ที่เหลืออยุ่ตามจุดต่างๆเป็นของเล่นที่จิโร่มองตาเป็นมันในหัวเขาเต็มไปด้วยวงจรไฟประหลาดที่อยากจะเอามาพาดไว้บนต้นไม้เหล่านั้น เขาเริ่มนึกถึงเพื่อนๆหลายคนที่อยากชวนมาร่วมสนุกกันในงานนี้ทั้งคนไทยและคนต่างชาติ ผมอยากให้ชาวบ้านในพื้นที่มีส่วนร่วมกับงานมากที่สุด ไม่อยากให้เขารู้สึกว่าเรามาบุกรุกพื้นที่ของเขา อไรที่เขามีส่วนร่วมได้เราจะชวนเขามาสนุกด้วย เรานึกถึงของแจกในงานว่าน่าจะเป็นผ้าขาวม้าลายสวยที่เราออกแบบขึ้นมาใหม่ที่ใช้ทำอไรก็ได้ โพกหัว พันคอ คลุมไหล่ ปูนั่ง นุ่งอาบน้ำ และที่สำคัญถ้าเป็ไปได้เราน่าจะให้ชาวบ้านแถวนั้นเป็นผู้ผลิดเพื่อเป็นรายได้พิเศษกับคนในชุมชน


ไวนน์หมดขวดไปนานแล้ว แต่เรื่องราวสนุกสนานยังไหลวนออกมาไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่ายๆ แต่มองนาฬิกาแล้วพบว่าเราควรจะเข้านอนเพื่อเตรียมตัวตื่นตอนตีห้าครึ่งมาดูบรรยากาศตอนพระอาทิตย์ขึ้นอีกที โอ้โห ตื่นนอนตีห้าครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่นี่ แต่ไม่เป็นไรเพื่อพ่อแม่พี่น้องได้มีความสุขพวกเรายอมทุกอย่าง แยกย้ายเข้านอน


ตีห้าสิบครึ่งเสียงนาฬิกาปลุกถีบพวกเราสามคนออกมาจากเตียง งัวเงียสลึมสลือแต่ก็เดินตรงออกมามุ่งหน้าไปที่พื้นที่ เดินและขับรถวนอีกหนึ่งรอบ ในแต่ละช่วงเวลาพื้นที่นี้มีการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยเหมือนมีชีวิต มุมต่างๆเปลี่ยนหน้าตาไปตามทิศททางของแสง บางอย่างที่คิดไว้มีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเห็นความเปลี่ยนไปในแต่ละช่วงเวลา หลังจากดูจนทั่วทุกคนก็พออกพอใจเรามั่นใจว่านี่คือที่ที่เราต้องการ เรารู้ว่าเราจะทำอะไรกับที่นี่ได้บ้าง ไอเดียบ้าบอมีอยู่เต็มหัว รอให้เราจัดระเบียบให้มันลงมาอยู๋ในหน้ากระดาษเป็นภาพให้ทุกคนเห็น เราแพ๊คของกลับกรุงเทพและนัดหมายกันว่า อีกประมาณหนึ่งเดือนเราจะกลับมาเจอกันใหม่พร้อมไอเดียที่ถูกวาดเป็นภาพออกมา และนั่นจะเป็นเครื่องมือชิ้นแรกที่เราจะใช้เดินไปหาเพื่อนร่วมอุดมการณ์ ในนามสปอนเซอร์ เรารู้ว่าเราต้องใช้เงินเยอะเพื่อให้งานออกมาอย่างที่ฝัน สี่สิบ ห้าสิบล้านคือขอบคร่าวๆที่เราวางเอาไว้ ฝันตอนต่อไปของเราจะเป็นอย่างไร โปรดอดใจ และคอยติดตาม


~ โดย pated บน กันยายน 3, 2009.

20 Responses to “เราสามคนบนเขาใหญ่”

  1. ติดตามอ่านมาตลอดครับพี่ เอาใจช่วยครับ

  2. ป๋าเต็ดขอแนะนำ อยากให้มี หาบเร่ ซีดี ให้ศิลปินที่ ไม่ได้แสดงบนเวที ณ ตอนนั้น เดินขายได้ไหม จะได้ ใกล้ชิดคนฟัง แล้ว ขายตรงกับมือเลย ครับ

  3. ยิ่งอ่านยิ่งสนุก จินตนาการตามอย่างครื้นเครง

  4. กรู้้้้้้้้้้้้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆน่ามัน

  5. ึความฝันเริ่มก่อตัวขึ้นมาแล้วนะครับ 🙂

  6. รออ่านตอนต่อไปอยู่นะครับ 😀

  7. บิ้วอารมณ์กันสุดๆ…

    ใครอ่านก็อยากไป๊…..

  8. แหล่มเลย…
    ผมไม่รู้ว่างานนี้ สนามหลวงจะออกหน้าแค่ไหน
    ถ้าจัดในนามสนามหลวง ผมอยากได้ซุ้มหรือมุมที่เกี่ยวกับผีขนุนซักมุม
    ผมว่ามันได้อารมณ์ หนามหลวง หนามหลวงดี… 🙂

  9. ชอบความคิดที่ให้ชาวบ้านมีส่วนเกี่ยวข้องมากเลยครับ ^ ^

  10. งานช้าง…อ่านแล้วใจเต้นตามไปด้วย รู้สึกเลยครับว่าใครที่จะทำอะไรใหญ่ๆมันกระหายที่จะทำ,kdqq

    ผมขอเสนอเรื่องห้องน้ำ

    ที่สำคัญคือคนทำความสะอาดนะครับ ไม่งั้นเละแน่ๆ

    ขอบคุณล่วงหน้าเลยครับ อยากไปมากๆๆๆ

  11. จินตนาการตามที่ป๋าเขียนแล้ววว

    ขอภาพปลากรอบด่วนครับป๋า lol

  12. จุ๊กกรู้รู้รู้รู้รู้รู้รู้รู้

  13. รบกวนขอเมล์ป๋าหน่อยได้ไหมครับ

    อยากพาน้อง ๆ ไปเล่นดนตรีข้าง ๆ งาน

  14. baccarat Casino online 24h
    คาสิโนออนไลน์ สด24ช.ม กับบริษัทยักษ์ใหญ่ ที่เราคัดสรรมาเป็นอย่างดี มีความมั่นคงทางการเงินสูง ท่านสามารถสมัครสมาชิกได้โดยตรงกับทาง บริษัท ฝาก/ถอนเงินได้ตลอด 24ช.ม โดยไม่ต้องผ่านเอเย่น มาเล่นกับบริษัทที่เปิดถูกต้องตามกฎหมายดีกว่า มีเงินจ่ายให้ท่านอย่างไม่อั้น สามารถพูดคุยโต้ตอบกันแบบสดๆ ท่านสามารถเข้าร่วม แข่งขันเดิมพัน ได้ง่ายๆ โดยเลือกคลิกแบนเนอร์ของบริษัท ที่ท่านต้องการจะร่วมลงเดิมพัน

ส่งความเห็นที่ pated ยกเลิกการตอบ